ปัญหาหนักใจของพ่อแม่มือใหม่ที่จำเป็นต้องพาลูกเล็กขึ้นเครื่องบินแต่ก็เกรงใจเพื่อนร่วมไฟล์ทในเวลาที่ลูกร้องงอแง จริงๆแล้วทำไมเด็กถึงมักร้องไห้เวลาขึ้นเครื่องบินกันนะ และพ่อแม่ต้องเตรียมของในกระเป๋าอย่างไรให้พร้อมรับมือเวลาลูกน้อยส่งเสียงร้องดัง ตามมาอ่านกันเลย
ทำไมเด็กถึงร้องเสียงดังบนเครื่องบิน
ส่วนใหญ่แล้วสายการบินจะอนุญาตให้เด็กเล็กที่อายุมากกว่า14วันขึ้นไปเดินทางโดยมีผู้ใหญ่ดูแลเท่านั้น ซึ่งเด็กเล็กที่อายุน้อยกว่า2ปีจะต้องโดยสารบนตักของผู้ใหญ่ ซึ่งข้อจำกัดด้านร่างกายและอายุที่ยังน้อยนี้เอง การพาเด็กเล็กขึ้นเครื่องบินไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพ่อแม่ เพราะเจ้าตัวน้อยอาจร้องงอแงเสียงดังบนเครื่องบินด้วยหลากหลายสาเหตุ โดยเฉพาะความเจ็บจากแรงดันอากาศที่ส่งผลต่อหูที่เซนซิทีฟของเด็ก ความหิว ความเหนื่อย อากาศที่เย็น หรือผ้าอ้อมที่ไม่สะอาด ล้วนมีผลให้ลูกน้อยงอแงบนเครื่องบิน ซึ่งการเตรียมพร้อมแต่เนิ่นๆจะช่วยให้พ่อแม่รับมือและดูแลไม่ให้ลูกน้อยส่งเสียงดังได้ดีกว่าการไปจัดการที่หน้างาน
เตรียมตัวอย่างไรก่อนพาลูกขึ้นเครื่อง
สิ่งสำคัญแรกสุดของการพาลูกขึ้นเครื่องบินคือการเตรียมเอกสารที่จำเป็นตามกฎของสายการบิน (ควรตรวจสอบข้อมูลที่ชัดเจนกับแต่ละสายการบินอย่างละเอียด) ดังนี้
- เด็กเล็กอายุตั้งแต่ 14 วัน แต่ไม่ถึง 7 ปีบริบูรณ์ ต้องใช้ใบสูติบัตรฉบับจริงหรือใบแทนสูติบัตรตามกฎหมายในวันเดินทาง หรือ หนังสือเดินทาง(Passport)ฉบับจริงในกรณีที่ไม่สะดวกพกใบสูติบัตรตัวจริง
- เด็กอายุ 7 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ในวันเดินทาง ใช้บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง หรือ ใบแทนบัตรประจำประชาชนตามกฎหมาย หรือ หนังสือเดินทาง(Passport)ฉบับจริง
เมื่อแน่ใจว่าเตรียมเอกสารสำคัญครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว สิ่งต่อมาคืออุปกรณ์จำเป็นสำหรับลูก เช่น ขวดนม จุกนม และขนมที่เพียงพอกับระยะเวลาของเที่ยวบิน คาร์ซีทที่สายการบินอนุญาตให้ใช้กับเบาะนั่งเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ลูกน้อย รวมทั้งผ้าอ้อมเด็กสำหรับเปลี่ยนบนเครื่อง น้ำเกลือปราศจากเชื้อเพื่อทำความสะอาดคราบเลอะเทอะบนผิวลูก และของเล่นเพื่อดึงดูดความสนใจไม่ให้ลูกงอแง
ทำอย่างไรให้ลูกไม่ร้องงอแงบนเครื่องบิน
เรื่องน่ากังวลใจที่สุดเวลาพาลูกน้อยขึ้นเครื่องบินของพ่อแม่คือการรับมือเมื่อเจ้าตัวเล็กร้องไห้งอแง โดยมีวิธีการเตรียมพร้อมต่างๆดังนี้
- เลือกที่นั่งใกล้ริมหน้าต่างเพื่อให้ลูกจดจ่อกับวิวและป้องกันลูกจากการซุกซนและรบกวนผู้โดยสารคนอื่นหรือลดการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดหากนั่งติดทางเดิน
- เลือกเวลาเที่ยวบินที่ตรงกับช่วงเวลานอนหลับของลูก เช่นเวลากลางคือหรือเวลาหลับกลางวันเพื่อให้เจ้าตัวหลับในระหว่างเดินทางได้โดยไม่ส่งเสียงรบกวนผู้โดยสารคนอื่น
- ดูแลให้ลูกรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของแรงดันอากาศด้วยการให้ลูกดื่มนมหรือดูดจุกนม เพราะเด็กเล็กยังไม่สามารถกลั้นหายใจหรือกลืนน้ำลายได้เอง การให้ลูกดื่มนมระหว่างเครื่องกำลังบินขึ้นและลงจอดจะช่วยให้บรรเทาอาการหูอื้อของลูกและลูกเจ็บหูน้อยลง
- เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกก่อนขึ้นเครื่องเพื่อให้ลูกสบายตัว เพราะผ้าอ้อมที่อับหรือเปียกชื้นจะทำให้ลูกร้องไห้โยเยได้ง่ายๆ พ่อแม่จึงควรทำความสะอาด เช็ดผิวลูกด้วย น้ำเกลือฉลากเขียวคลีนแอนด์แคร์ เช็ดตัวลูกให้แห้งก่อนจะเปลี่ยนให้ลูกสวมใส่ผ้าอ้อมชิ้นใหม่ที่แห้งสะอาด
- เตรียมพร้อมสำหรับอุณหภูมิที่เย็นกว่าปกติบนเครื่องบินโดยการให้ลูกสวมใส่เสื้อผ้าที่อบอุ่นร่างกายเพียงพอ และเตรียม สเปรย์น้ำเกลือพ่นจมูก เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับโพรงจมูกลูก
- เตรียมของเล่นที่ไม่ส่งเสียงดังเพื่อให้ลูกสนใจกับของเล่นและไม่ร้องไห้หรือปีนป่ายจนรบกวนผู้โดยสารข้างๆ เช่น สมุดระบายสี ตุ๊กตาตัวโปรด หรือการ์ตูนที่ลูกชอบ
ที่มาข้อมูล:
- https://support.airasia.com/s/article/Traveling-with-an-infant-or-a-child-on-a-flight
- https://content.nokair.com/th/Journey-Planning/Travel-with-infant-or-Children.aspx
- https://www.healthychildren.org/English/safety-prevention/on-the-go/Pages/Flying-with-Baby.aspx
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพิ่มความชุ่มชื้นให้โพรงจมูก ทำให้น้ำมูกนิ่มลง เช็ดหรือสั่งน้ำมูกออกมาได้ง่ายขึ้น